6 วิธีในการรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์คุณ

ทุกวันนี้เราทุกคนต่างใช้เครือข่ายออนไลน์ในการทำธุรกิจเป็นหลัก ด้วยความคิดที่ว่าเครือข่ายออนไลน์นี้ง่าย สะดวด รวดเร็วในการปฏิบัติและจัดการ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจส่วนใหญ่ต่างเลือกหันมาใช้เว็บไซต์เป็นสิ่งเชื่อมโยงไปยังลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ แต่แล้วเจ้าของธุรกิจหรือเว็บไซต์บางรายก็พบเจอกับปัญหาการโดนแฮกข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เราเลยจะมานำเสนอระบบความปลอดภัย(Security) 6 วิธีเพื่อช่วยคุณรักษาเว็บไซต์จากเหล่าแฮกเกอร์ที่กำลังจับตามองคุณอยู่

1. สร้างรหัสผ่าน (Password)

รหัสผ่านหรือที่เราต่างคุ้นปากกันว่า “พาสเวิร์ด” เป็นกุญแจสำคัญเพื่อปลดล็อคการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นการตั้งพาสเวิดขึ้นมา ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องใส่ใจเอามากๆ พาสเวิร์ดที่คุณใช้ควรเป็นอะไรที่ง่ายต่อการจำ แต่ก็ไม่ใช่ว่าง่ายถึงขนาดที่ผู้ใช้งานหรือแฮกเกอร์จะสามารถเดาออก การตั้งพาสเวิร์ดของคุณควรมีการใช้ตัวอักษรเล็กใหญ่ผสมปนเปไปกับจำนวนตัวเลข หรือคุณอาจจะใส่เครื่องหมายสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความยากเข้าไปด้วยก็ได้เช่นกัน พาสเวิร์ดไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันเว็บไซต์ของคุณ แต่ยังเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยปกปองข้อมูลส่วนตัวจากอีเมล, ระบบธุรกรรม หรือโซเชียลมีเดียที่คุณใช้งาน

password

2. ปกป้องเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ของคุณ

พาสเวิร์ดไม่เพียงแต่เป็นสิ่งจำเป็นต่อบัญชีออนไลน์ที่คุณใช้ แต่ยังมีความสำคัญต่อเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ของคุณเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลที่สำคัญของคุณจากผู้อื่น การเพิ่มพาสเวิร์ดเข้าไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือของคุณนั้นจะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยเหมือนมีคนคอยคุ้มกันคุณอยู่

key

3. ใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ของตัวเองเป็นหลัก

เพื่อเป็นการป้องกันการติดไวรัสหรือป้องกันผู้อื่นเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของเรา การเลือกใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ คุณควรใช้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆของตัวเองเป็นหลัก แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะจริงๆ อย่าลืมเตือนตัวเองให้ทำการ log out ทุกครั้งที่ใช้งานเสร็จ

Phishing

4. ตั้งการยืนยันผู้ใช้งาน 2 ขั้นตอน (2-step Verification)

อีเมลและโซเชียลมีเดียเป็นสองช่องทางที่สามารถเจาะเข้าไปยังข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ง่ายที่สุด โดยปกติแล้วเราต่างใช้อีเมลในการส่งรับข้อความลับเฉพาะกิจ, ไฟล์งานที่สำคัญ, พาสเวิร์ดหรือโค้ดต่างๆ ดังนั้นหากคุณต้องการเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้เป็นการส่วนตัว เราขอแนะนำให้คุณตั้งโค้ดการยืนยันผู้ใช้งานเป็น 2 ขั้นตอน

5. อย่าพลาดเสียข้อมูลให้กับการ Phishing!

การฟิชชิงคือการหลอกหลวงทางอินเตอร์เนตเพื่อขอข้อมูลที่สำคัญ เช่นรหัสผ่านหรือหมายเลขบัตรเครดิตผ่านทางการส่งอีเมลหรือข้อความไปยังผู้รับ เมื่อได้ข้อมูลไปแล้วเหล่าแฮกเกอร์ก็จะสามารถแฮกบัญชีผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ ดังนั้นหากคุณได้อีเมลไม่ว่าจะมาจากคนสนิท เพื่อนฝูง หรือองค์กรใดๆ คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าอีเมลนั้นเป็นของจริงหรือเท็จ

Phishing

6. การเลือกเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณชน

คุณต้องเข้าใจว่าหากคุณเลือกที่จะอัพเดตข้อมูลใดที่เกี่ยวกับคุณ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ลงบนโลกโซเชียลมีเดียแล้ว นั่นแปลว่าคุณกำลังเผยแพร่ข้อมูลให้แก่คนนับร้อยรู้เกี่ยวกับคุณ จะว่าไปมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายและเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของคุณไม่น้อย ดังนั้นก่อนการโพสต์หรืออัพเดตอะไร ควรพิจารณาให้ดีก่อนกด “Publish”

อ้างอิง: http://www.wix.com/blog/2015/02/keep-safe-online-6-security-steps-you-should-take-now

ติดตามข่าวสารจากเรา

คุณสามารถกรอก email ของคุณด้านล่างเพื่อรับข่าวสารและบทความอัพเดทใหม่ๆจากทางเรา
แจ้งเตือนทันทีที่มีบทความใหม่ เพื่อให้คุณไม่พลาดสิ่งใหม่

แชร์บทความนี้ไปให้เพื่อนๆของคุณ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

1 × three =

This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.

The reCAPTCHA verification period has expired. Please reload the page.

ข้าพระพุทธเจ้า ขอร่วมถวายความอาลัย น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระเมตตาและพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ภาพรวมความเป็นส่วนตัว

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้เราสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่คุณได้ ข้อมูลคุกกี้จะถูกเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณและทำหน้าที่ต่างๆ เช่น การจดจำคุณเมื่อคุณกลับมาที่เว็บไซต์ของเรา และช่วยให้ทีมงานของเราเข้าใจว่าส่วนใดของเว็บไซต์ที่คุณพบว่าน่าสนใจและมีประโยชน์มากที่สุด