4 เทคโนโลยีทดแทนการใช้พาสเวิร์ด

คุณคงเคยได้ยินถึงปัญหาที่ผู้ใช้งานอีเมล หรือระบบอินเตอร์เนตบางคนโดนแฮคพาสเวิร์ด หรือข้อมูลกันมามากพอสมควร สาเหตุหลักๆของปัญหานี้ก็คงหนีไม่พ้นการเลือกใช้พาสเวิร์ดที่ง่ายหรืออ่อนเกินไป (Weak Password) ยกตัวอย่างเช่น การเลือกใช้ตัวเลขหรือตัวอักษรเรียงกัน (12345678 หรือ ABCDEF) หรือแม้แต่ชื่อและคำศัพท์อย่าง justin, michelle, princess,qwerty, monkey, baseball เป็นต้น และที่แย่ไปกว่าการใช้พาสเวิร์ดง่ายๆ ผู้ใช้งานต่างเลือกใช้พาสเวิร์ดแบบเดียวสำหรับการเข้าใช้งานทุกบัญชีการใช้งานที่มี เพื่อตัดปัญหาการลืมหรืออาจกรอกพาสเวิร์ดผิด ซึ่งก็สบายเหล่าแฮคเกอร์กันเลยทีเดียว แฮคหนึ่งบัญชี ได้อีกสองหรือสามบัญชี ดังนั้นนักวิจัยและเจ้าของธุรกิจไอทีต่างๆจากหลากหลายที่ต่างรีบค้นคว้าวิธีที่จะหาเทคโนโลยีมาทดแทนพาสเวิร์ดธรรมดาๆ ซึ่งขณะนี้มีแล้ว 4 วิธีที่อาจนำมาใช้ได้ในอนาคต

การใช้คลื่นสมอง

นักวิทยาศาสตร์จาก Binghamton University ในนิวยอร์ค ได้ทดสอบคลื่นสมองที่มีต่อคำถาม โดยคัดเลือกอาสาสมัคร 45 คน ผลที่ออกมาจากแต่ละบุคคลนั้นถึงแม้จะต่างกันแต่ก็สามารถระบุข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ซึ่งมีความถูกต้องถึง 94% การทดลองจากกลุ่มนี้เรียกว่า “Brainprints”

การใช้อัตราการเต้นของหัวใจ

Nymi บริษัทจากประเทศแคนาดา ได้ทำการสร้างผลิตภัณฑ์สายรัดข้อมือ เพื่อใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยที่จะมีตัวเซนเซอร์ติดอยู่ 2 ที่ คือด้านนอกและด้านในของสายรัดข้อมือ ตัวเซนเซอร์ด้านในจะคอยจับอัตราการเต้นหัวใจของผู้สวมใส่ และด้านนอกจะเป็นตัวที่เชื่อมต่อ Bluetooth ของสมาร์ทโฟน หรือแล็ปท็อป เพื่อใช้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นตัวยืนยันการเข้าใช้งานหรือการทำธุรกรรม

การใช้เสียงรอบข้างหรือคลื่นเสียงรบกวน

การใช้เสียงแทนพาสเวิร์ดอาจดูไม่ใหม่หรือแปลกสักเท่าไร แต่เพื่อความซับซ้อนในการยืนยันตัวผู้ใช้งานนั้นทางทีมวิจัยจาก Swiss Federal Institute of Technology ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกแบบ การใช้เสียงรบกวนจากรอบข้างที่เรียกว่า Sound-Proof ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยเป็น 2 ขั้นตอน (two-factor authentication)

เมื่อคุณเขาใช้งานเว็บไซต์ใดที่มีการตั้งรหัส Sound-Proof ตัวเซิรฟ์เวอร์จะทำการสแกนเสียงรอบข้างผ่านทางสมาร์โฟนคู่กับแล็ปท็อปที่คุณใช้งานทันที หากเป็นเสียงเดียวกันคุณก็จะเข้าใช้งานได้ แต่หากเสียงมีความต่างกันก็จะไม่สามารถเข้าใช้งานได้

การใช้วิธีจดจำใบหน้าเจ้าของ

เราอาจคุ้นเคยการใช้ใบหน้าเจ้าของเครื่องหรือไซต์เป็นการยืนยันเพื่อเข้าใช้งานจากการเริ่มใช้งานของ Windows 10 ที่เรียกว่า Windows Hello ฟีจเจอร์ดังกล่าวเป็นการใช้ใบหน้าเพื่อล็อคอินพาสเวิร์ดหรือพาสโค้ดต่างๆ การใช้ใบหน้าแทนพาสเวิร์ดนี้มีความแม่นยำและถูกต้องเป็นอย่างสูง สำหรับ Windows แล้วการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้งานนั้นไม่สามารถทำได้จากการถ่ายรูปผ่าน Web Camera ทั่วไป ผู้ใช้งานจะต้องใช้ Intel’s RealSense 3D Camera เพื่อถ่ายและสแกนเข้าไป
ที่มา : http://www.businessinsider.com/4-technologies-that-could-kill-the-password-2015-8

ติดตามข่าวสารจากเรา

คุณสามารถกรอก email ของคุณด้านล่างเพื่อรับข่าวสารและบทความอัพเดทใหม่ๆจากทางเรา
แจ้งเตือนทันทีที่มีบทความใหม่ เพื่อให้คุณไม่พลาดสิ่งใหม่

แชร์บทความนี้ไปให้เพื่อนๆของคุณ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

4 × three =

This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.

The reCAPTCHA verification period has expired. Please reload the page.